00 นอกจากนี้สามารถบอกความเป็นกรด-เบสของสารละลายในรูปความเข้มข้นของ OH – ก็ได้ โดยค่า pOHค่า pOH ใช้บอกความความเป็นกรด- เบสของสารละลายเจือจางได้เช่นเดียวกับค่า pH ซึ่งค่า pOH จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ OH – โดยกำหนดความสัมพันธ์ดังนี้ ตัวอย่างการคำนวณค่า pOH สารละลาย NaOH เข้มข้น 0. 01 โมลต่อลูกบาศก์เซนติเมตร มี pH เท่าใด วิธีทำ NaOH (aq) ————-> Na + (aq) + OH – (aq) 0. 01 mol/dm 3 0. 01 mol/dm 3 = 1 x 10 -2 mol/dm 3 pOH = -log[OH –] = -log 1×10 -2 mol/dm 3 = 2log10 – log1 pOH = 2 ในสารละลายที่เป็นกลางซึ่งมี [OH –] = 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 จะมี pOH = 7 ความสัมพันธ์ระหว่าง pH กับ pOH [H 3 O +][ OH –] = 1. 0 x 10 -14 log[H 3 O +][ OH –] = log1. 0 x 10 -14 log[H 3 O +] + log[OH –] = log1. 0 – 14 log10 – log[H 3 O +] – log[OH –] = 14 log10 มาตราส่วน pH (pH scale) ใช้บอกความเป็นกรด-เบสของสารละลาย (ที่มา: สุนทร พรจำเริญ เอกสารประกอบการสอนเรื่องกรด-เบส โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์) ตารางแสดง สเกล pH ของสารละลายที่มีความเข้มข้นต่างๆ กัน วิธีวัด pH ของสารละลายวัดได้ 2 วิธี ดังนี้ 1. วิธีเปรียบเทียบสี วิธีนี้เป็นการวัด pH โดยประมาณ (มีความถูกต้อง 0.
pH ของสารละลาย ในสารละลายกรดหรือเบสจะมีทั้ง H 3 O + และ OH – อยู่ในปริมาณที่แตกต่างกัน การบอกความเป็นกรด เป็นเบสของสารละลายโดยใช้ความ เข้มข้นของ H 3 O + หรือ OH – มักเกิดความผิดพลาดได้ง่ายเพราะสารละลายมักมีความเข้มข้นของ H 3 O + หรือ OH – น้อย ดังนั้นในปี ค. ศ. 1909 นักเคมีชาวสวีเดนชื่อ ซอเรสซัน (Sorensen) ได้เสนอให้บอกความเป็นกรด-เบสของสารละลายในรูปมาตราส่วนpH ย่อมาจากภาษาฝรั่งเศสว่า puissance d, hydrogine แปลว่า กำลังของไฮโดรเจน (power of hydrogen) โดยกำหนดว่า เมื่อความเข้มข้นของ H 3 O + มีหน่วยเป็น mol/dm 3 หรือ Molar ในสารละลายที่เป็นกลาง [H 3 O +] = [OH –] = 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 ดังนั้น หา pH ของสารละลายได้ดังนี้ pH = – log[H 3 O +] = – log 1. 0 x 10 -7 = – (log 1. 0 – 7log10) = 0 + 7 = 7 นั่นคือสารละลายที่เป็นกลางมี pH = 7 ค่า pH ที่ใช้ระบุความเป็นกรดหรือเบสของสารละลาย สรุปได้ดังนี้ สารละลายกรด มี [H 3 O +] มากกว่า 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 ดังนั้น pH<7. 00 สารละลายที่เป็นกลาง มี [H 3 O +] เท่ากับ 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 ดังนั้น pH = 7. 00 สารละลายเบส มี [H 3 O +] น้อยกว่า 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 ดังนั้น pH>7.
5 ดังนั้นควรพยายามตรวจสอบระดับ pH ของดินอย่างสม่ำเสมอ การระบุปัญหา pH ของดินตั้งแต่เนิ่นๆ มีความสำคัญ เนื่องจากอาจเป็นได้ทั้งค่าใช้จ่ายสูงและยากต่อการแก้ไขภาวะขาดธาตุอาหารในระยะยาว
ค่า pH ในปัสสาวะ ค่าความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะ หรือ ค่าพีเอชในปัสสาวะ (ภาษาอังกฤษ: pH ย่อมาจาก Potential of Hydrogen ion) คือ การตรวจหาว่าตัวอย่างปัสสาวะนั้นมีความเป็นกรดหรือด่างมากน้อยเพียงใด และช่วยประเมินการทำงานของไตในการควบคุมความเป็นกรดเป็นด่างของเลือดและน้ำภายนอกเซลล์ โดยทั่วไปปัสสาวะจะค่อนข้างมีความเป็นกรดอยู่เล็กน้อย (pH ประมาณ 6. 0) แต่ก็อาจมีค่าเป็นกลางหรือเป็นด่างเล็กน้อยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ดื่ม ประเภทอาหาร และยาที่บริโภค โดย ช่วงอ้างอิงของค่าความเป็นกรด-ด่าง ( pH) ของปัสสาวะนั้นจะอยู่ที่ 4. 6 - 8. 0 ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะปกติมีความเป็นกรดเล็กน้อยนั้นก็เนื่องมาจากร่างกายขับไฮโดรเจนไออน (H+ ion) ออกมาทางน้ำปัสสาวะเพื่อรักษาสมดุลของกรดเป็นด่างในร่างกายนั่นเอง ค่า pH ปกติ ให้ยึดตามค่าที่ระบุไว้ในใบรายงานแสดงผลเลือด (ถ้ามี) แต่ถ้าไม่มีให้ยึดตามค่าปกติทั่วไป คือ ค่าความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะที่ปกติ เท่ากับ 4. 0 (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6.
00 นอกจากนี้สามารถบอกความเป็นกรด-เบสของสารละลายในรูปความเข้มข้นของ OH – ก็ได้ โดยค่า pOHค่า pOH ใช้บอกความความเป็นกรด- เบสของสารละลายเจือจางได้เช่นเดียวกับค่า pH ซึ่งค่า pOH จะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของ OH – โดยกำหนดความสัมพันธ์ดังนี้ ตัวอย่างการคำนวณค่า pOH สารละลาย NaOH เข้มข้น 0. 01 โมลต่อลูกบาศก์เซนติเมตร มี pH เท่าใด วิธีทำ NaOH (aq) ————-> Na + (aq) + OH – (aq) 0. 01 mol/dm 3 0. 01 mol/dm 3 = 1 x 10 -2 mol/dm 3 pOH = -log[OH –] = -log 1×10 -2 mol/dm 3 = 2log10 – log1 pOH = 2 ในสารละลายที่เป็นกลางซึ่งมี [OH –] = 1. 0 x 10 -7 mol/dm 3 จะมี pOH = 7 ความสัมพันธ์ระหว่าง pH กับ pOH [H 3 O +][ OH –] = 1. 0 x 10 -14 log[H 3 O +][ OH –] = log1. 0 x 10 -14 log[H 3 O +] + log[OH –] = log1. 0 – 14 log10 – log[H 3 O +] – log[OH –] = 14 log10 มาตราส่วน pH (pH scale) ใช้บอกความเป็นกรด-เบสของสารละลาย ตารางแสดง สเกล pH ของสารละลายที่มีความเข้มข้นต่างๆ กัน วิธีวัด pH ของสารละลายวัดได้ 2 วิธี ดังนี้ 1. วิธีเปรียบเทียบสี วิธีนี้เป็นการวัด pH โดยประมาณ (มีความถูกต้อง 0. 5 หน่วย pH) ซึ่งทำได้โดยเติมอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมลงไปในสารละลายที่ต้องการวัด pH แล้วเปรียบเทียบกับสารละลาย ทำได้โดยเติมอินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมลงไปในสารละลายที่ต้องการวัด pH แล้วเปรียบเทียบสีกับสารละลายบัฟเฟอร์ที่ทราบค่า pH แน่นอน ซึ่งได้เติมอินดิเคเตอร์ชนิดเดียวกันไปแล้ว หรือใช้กระดาษชุบอินดิเคเตอร์ (กระดาษ pH) จุ่มลงไปแล้วเปรียบเทียบกับสีมาตรฐาน 2.
เผยแพร่: 24 ส. ค.