สนาม และ ฮอสพิเทล • จะได้รับการตรวจ ซักประวัติ เอกซเรย์ปอด หากผลการเอกซเรย์ปอด มีข้อสงสัย ว่าปอดจะอักเสบ จะได้อยู่โรงพยาบาล • กลุ่มที่ต้องอยู่ รพ. สนาม และ ฮอสพิเทล คือ อาการไม่หนัก อายุน้อยกว่า 50 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ใช่ผู้พิการ และสามารถดูแลตัวเองได้ ผู้ป่วยที่จะเข้ารักษา ณ รพ. สนาม ต้องทำ อย่างไร • เตรียมสิ่งที่จำเป็น ได้แก่ เสื้อผ้า จำนวน 4-5 ชุด หรือพอดีกับจำนวนที่เข้าพัก 14 วัน • ของใช้ในกิจวัตรประจำวัน เช่น สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน และอื่น ๆ ที่ • ยารักษาโรคประจำตัว รวมทั้งข้อมูล ประวัติการรักษาจาก โรงพยาบาลเดิม(ถ้ามี) โทรศัพท์มือถือ สายชาร์จ ใช้สำหรับดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไลน์ ในการติดต่อหอผู้ป่วยในการสื่อสารขณะรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลสนาม และสามารถนำกระติกน้ำร้อนมาเองได้ ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข สำนักการเเพทย์ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยเเละนวัตกรรม ข่าวที่เกี่ยวข้อง อัพเดท20เม. 64 ผู้ติดเชื้อโควิดในไทย 17, 631 ราย อยู่จังหวัดไหนบ้าง เช็กได้ที่นี่ แก้ "วัคซีนโควิด" ล่าช้า รัฐต้องทลายกำแพงหน่วยงานใน สธ. เบรกไม่อยู่! "โคราช" ติดโควิดเพิ่ม 32 ราย ผู้ว่าฯ สั่งล็อกดาวน์ 3 หมู่บ้าน นายกฯสั่ง "โรงพยาบาลสนาม" จำเป็น ต้องตั้ง "ทุกจังหวัด"
วลัยลักษณ์ จ. นครศรีธรรมราช 100 เตียง ม. สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี 70 เตียง ม. นราธิวาสราชนครินทร์ จ. นราธิวาส ที่ รพ. กัลยาณิวัฒนาการุณย์ 30 เตียง และโรงยิมเนเซี่ยมของมหาวิทยาลัยฯ 50 เตียง ม. ราชภัฏยะลา จ. ยะลา ที่ โรงเรียนการศึกษาพิเศษ 60 เตียง และ อาคารกิจกรรมนักศึกษา จำนวน 200 เตียง ม. เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล จ. ประจวบคีรีขันธ์ 144 เตียง ภาคตะวันออก ม. ราชภัฏราชนครินทร์ จ. ฉะเชิงเทรา ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ศูนย์บางคล้า 200 เตียง อาคาร 7 มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ศูนย์บางคล้า 50 เตียง สัมมนาคาร บางปะกงปาร์ค บางคล้า สำหรับเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง จำนวน 30 ห้อง สถาบันอุดมศึกษาที่เพิ่มและ ลดจำนวนเตียง ตลอดจนเตรียมพร้อมสถานที่ ม. ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 470 เตียง ม. นเรศวร จ. พิษณุโลก ที่รพ. พุทธชินราช บึงแก่นใหญ่ เพิ่มจาก 40 เตียง เป็น 100 เตียง ม. ราชภัฏลำปาง 800 เตียง ม. ทักษิณ จ. สงขลา ที่สำนักส่งเสริม บริการวิชาการและภูมิปัญญาพนางตุง ลดจาก 500 เตียง เหลือ 350 เตียง จำนวนเตียงในโรงพยาบาลทุกสังกัด ไม่ว่าจะเป็น กองทัพ รพ.
อย่าสับสน! "ศูนย์พักคอย" หรือ Community Isolation ไม่ใช่ "โรงพยาบาลสนาม" ชวนรู้ความแตกต่างของทั้งสองรูปแบบ เช็ค! ตอนนี้ศูนย์พักคอยมีกี่แห่ง? บางแห่งก็อัพเกรดเป็นศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนามด้วย ห้วงเวลานี้ สถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 ในไทย ยังคงวิกฤติหนัก มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทะลุเกินกว่า 2 หมื่นรายติดต่อกันหลายวัน ผู้ที่ได้รับการ "ตรวจโควิด" แล้วพบว่าตนเอง "ติดโควิด" ต่างก็เร่งเข้าสู่ระบบการรักษาตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ที่แบ่งตามระดับอาการป่วย เขียว/เหลือง/แดง แต่หลายคนยังสับสนว่าอาการป่วยของตนนั้น ต้องไปรักษาที่ไหน? โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถกักตัวที่บ้านได้ (Home Isolation) เพราะตอนนี้มีคำศัพท์และชื่อสถานที่ที่ใช้รักษาหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น Community Isolation, ศูนย์พักคอย, ศูนย์พักคอยกึ่งโรงพยาบาลสนาม, Hospitel, โรงพยาบาลสนาม, โรงพยาบาลหลัก เหล่านี้แตกต่างกันยังไง? กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนมาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น โดยเรารวบรวมข้อมูลและสรุปมาให้ ดังนี้ 1.
บุษราคัมอีก 3-5 วัน แล้วกลับบ้าน เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้เร็วขึ้น และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาของโรงพยาบาลบุษราคัม การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจสิ้นสุดในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า แต่ยังไม่มีใครจะคาดการณ์ได้แน่นอน แต่ความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนและปรับตัวในการตอบสนองความท้าทายและผลกระทบต่างๆ จากโควิด-19 อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ จะทำให้ผ่านข้ามวิกฤตไปด้วยกัน ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา